กลับมาทานอาหารกลางวันที่โรงแรม รอบบ่ายพาช้อบปิ้งสินค้า ในเมืองพุทธคยา เช่น ร้านขายผ้า.... ร้านขายของที่ระลึก บริเวณหน้าปริมณฑลของเจดีย์พุทธคยา และเข้ากราบไหว้อำลาพระพุทธเมตตราพระมหาเจดีย์พุทธคยาและต้นพระศรีมหาโพธิ์อีกครั้ง
พระพุทธเมตราภาพนี้ถ่ายได้งามมากค่ะ
วันนี้มีดอกไม้บูชารอบปริมลฑลมหาเจดีย์พุทธคยา
นั่งกราบ ไหว้ลาพระศรีมหาโพธิ์
และพาไปซื้อผ้ากลับมาเป็นของฝากและใช้เองพอสมควร
(ผ้าที่เก็บไว้ใช้เองค่ะ ไม่รวมของฝากที่แจกจ่ายไปแล้ว)
และได้มินท์สระแหน่มาหนึ่งแพ็ค
กระเทียมแคปซูลสำหรับลดไขมันอีก ๒ กล่อง
ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ค่ะภาคกลางคืน ในกลดที่เตรียมไปจากเมืองไทย
นั่งสมาธิบ้างเดินรอบเจดีย์พุทธคยาบ้างภาพกลางคืนค่ะ
เดินบ้าง นั่งบ้าง เผลอหลับบ้างจนสว่าง
เนื่องจากมีรายการพิเศษสำหรับคนที่ต้องการไปปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ในภาคกลางคืน ที่ต้องอยู่จนถึงเช้า มีเวลาปิดและเปิดสถานที่ ระหว่างเวลา ๒๑.๐๐ น. - ๐๕.๐๐ น.(ต้องเสียเงินค่าเบิกทางสะดวก คนละ ๑๐๐ บาทไทย ให้ชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าปริมณฑลของต้นพระศรีมหาโพธิ์ และพระมหาเจดีย์พุทธคยา) หัวหน้าทัวร์เก็บ และจัดการให้ เวลาเข้าจะนับหัวเลยค่ะ สำหรับคนที่ไปภาคกลางคืน ต่างเตรียมกรด ผ้ารองนั่ง ไฟฉาย กระดาษ น้ำขวด ยาประจำตัว มากันเรียบร้อยแล้วจากเมืองไทย มีผู้ไปภาคกลางคืนประมาณ เกือบ ๒๐ คน ผู้เล่าไม่พลาดอยู่แล้ว (ก็ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้มาอินเดียอีกหรือเปล่า “ชีวิตเป็นของไม่แน่ มีแต่ความตายเป็นของแน่” เคยได้ยินจากพุทธพจน์ และไม่มีใครรู้นอกจากพระอรหันต์ว่าความตายจะมาถึงตัวเองเมื่อไร) มีชาวพุทธต่างชาติอีกมากพอสมควร ที่อยู่ปฏิบัติกลางคืน พอได้เวลาปิด ยามก็เป่านกหวีดไล่ผู้ที่ไม่เสียเงิน และออกเดินเช็คจำนวนผู้อยู่ปฏิบัติ