วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ผีหลอกกลางวัน



ทางเดินที่เล่า 09/10/53 
ต้นยางใหญ่ข้างทางยังอยู่
          ที่วัดข้างบ้านมีเด็กวัดหลายคน เช้าๆพระออกบิณฑบาตก็จะเดินถือปิ่นโตคนละสองถึงสามเถาตามพระออกบิณฑบาตเป็นสายๆไป เด็กวัดพวกนี้มักจะแก่นซน ชอบแกล้งเด็กๆ ด้วยการทำผีหลอกกัน คือเวลาเช้า กลางวัน และเย็น เด็กในหมู่บ้านหลังวัดอย่างแม่และเพื่อนๆหลายคน จะต้องเดินผ่านวัดเพื่อไปโรงเรียนตอนเช้า พอพักกลางวันก็เดินกลับมาทานข้าวที่บ้าน เสร็จแล้วก็เดินกลับไปเรียนต่อ เย็นก็เดินกลับอีกรอบเป็นอย่างนี้ทุกวัน
        สองข้างทางเดิน เป็นป่าหญ้าขึ้นสูง มองจากทางเดิน (เป็นทางเดินจริงๆ พื้นดินเดินกันจนไม่มีหญ้าขึ้น กว้างประมาณ เดินเรียงกันได้ 3 คน เท่านั้น)ไม่เห็นสองข้างทางที่เป็นป่าหญ้า   ท้ายวัดจะมีมะกอกต้นใหญ่และสูงมาก มะกอกที่ใส่น้ำพริกหรือใส่ส้มตำ มีลูกดกมาก ริมทางที่ว่านี้ ออกจากบ้านมาด้านซ้ายมือเป็นวัด ด้านขวาเป็นคลองตันทางเดินอยู่ริมตลิ่งที่มีต้นงิ้วสูงใหญ่ 1 ต้น มีต้นยางสูงใหญ่ขนาดต้องแหงนคอตั้งบ่ามองยอดยาง เรียงรายอีก 10 กว่าต้น ที่เคยเล่าแล้วเป็นที่เก็บเห็ดเผาะ
        ต้นยางเหล่านี้เมื่อถึงฤดูที่ออกดอก และดอกยางแก่ พอลมฝนมาแรงๆ ดอกยางมากมายก็จะปลิวหมุนคว้าง เหมือนใบพัดอยู่กลางอากาศ ดูสวยงามก่อนที่จะตกลงสู่พื้นดิน ที่อยู่ห่างไกลจากต้นมากเสมอ เด็กๆ ชอบเก็บดอกยางเล่นโยนขึ้นไปในอากาศ ดูมันหมุนคว้างลงมาดูสวยงาม
       ทั้งด้านซ้ายและขวาของทางเดินเป็นป่าทั้งสิ้น พวกเด็กวัดจอมแก่นจะชอบแกล้ง แอบในป่าข้างทางด้านต้นมะกอก ทำเสียงเย็นๆ ลากเสียงยาวๆ ให้ฟังดูน่ากลัวเวลาที่เด็กผู้หญิงในหมู่บ้านเดินมาเป็นกลุ่มๆ ทั้งๆที่รู้ว่าน่าจะถูกแกล้ง แต่ในความรู้สึกของพวกเราก็ยังกลัว ที่ได้ยินแต่เสียงโหยหวยเย็นๆโดยที่ไม่เห็นตัวคน เรียกว่าวิ่งกันอย่างเร็วทันที และครั้งต่อๆไปที่จะต้องเดินผ่านถึงไม่ได้ยินเสียงก็พากันวิ่งให้พ้นช่วงนี้ไปก่อนทุกทีก็แล้วกัน เรื่องนี้เกิดในหน้าฝนที่มีหญ้าขึ้นสูงจนรกเต็มไปหมด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น