วันอังคารที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2553

รับเสด็จ

       มีอยู่ครั้งที่แม่เรียนอยู่ชั้น ป. 2 บริษัทปูนซิเมนต์ไทยได้กราบทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทำพิธีเปิดอะไรแม่จำไม่ได้ที่บริษัทปูนซิเมนต์ไทย ในช่วงนั้นมีโรงเรียนอยู่ไม่กี่โรง ทุกโรงเรียนก็พาเด็กนักเรียนมาตั้งแถวรอรับเสด็จ ในขณะนั้นโรงเรียนวัดถลุงเหล็ก(ปูนซิเมนต์ไทยอุปถัมภ์) เป็นโรงเรียนเดียวในตำบลท่าหลวงที่มีสอนถึงระดับประถมปลายและอยู่ในอุปถัมภ์ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย จึงถูกจัดให้รอรับเสด็จอยู่แถวหน้ามีนักเรียนหญิงอยู่คนแม่จำไม่ได้ว่าใคร ถูกจัดให้ถือพานถวายพวงมาลัยดอกไม้องค์สมเด็จฯ

       เด็กๆทุกคนที่มารับเสด็จ แต่งตัวกันเรียบร้อยและสะอาดสะอ้าน ใครมีขุดนักเรียนใหม่ๆก็เอามาใส่รับเสด็จ เด็กเล็กๆ แบบแม่จะใส่รองเท้าแตะ และทุกคนใส่หมวกกะโล่สีขาวที่เป็นหนึ่งในเครื่องแบบนักเรียนในสมัยนั้นและถือธงชาติโบกสะบัดในขณะที่รถพระที่นั่งขับช้าๆ ทั้งสองพระองค์ทรงโบกพระหัตถ์ให้กับผู้ที่ยืนรอรับเสด็จอยู่

       เมื่อขบวนรถพระที่นั่งผ่านไปแล้วนักเรียนก็ได้รับแจกข้าวและขนมกันคนละกล่อง ซึ่งเป็นอภินันทนาการจากบริษัทปูนซิเมนต์ไทย เป็นข้าวมันไก่ มีเนื้อน่องไก่อยู่ในกล่อง 1 – 2 น่อง และมีน้ำซุปใส่ถุงมาด้วย เด็กเล็กๆ อย่างแม่และเพื่อนๆไม่เคยกินข้าวมันไก่ อร่อยมากกินแต่ข้าวมันไก่และน้ำซุป จนอิ่มส่วนเนื้อน่องไก่ไม้รู้ว่าจะกินได้อย่างไร เมื่อกินกันเสร็จแล้ว ทุกคนก็ต้องเอากล่องไปทิ้งที่ถังขยะ มีคำถามกันเองว่าทำอย่างไรกับไก่ที่เหลือ ทุกคนต่างบอกกันว่าให้ทิ้งไปทั้งกล่อง (คือไม่รู้ว่าจะใช้มือจับเนื้อไก่กินได้อย่างไร ในสถานที่ผู้คนมากมายเช่นนี้)

       อันที่จริงถ้าไม่กลับบ้านแล้วเจ้าพี่ชายคนโตเอาน่องไก่ที่เก็บไว้หลายชิ้นมากินอวด ก็จะไม่นึกอะไรอีก นี่เอามากินและให้แม่กินด้วยและบอกว่าที่มีหลายชิ้นเพราะเพื่อนไม่เอา จึงเก็บมาโดยฉีกกล่องห่อและใส่กระเป๋ากางเกงมา จริงๆน่องไก่เมื่อตอนอยู่ในกล่องข้าว ก็หอมอยู่แล้วเมื่อมาได้กิน อร่อยมากไม่เคยได้กินมาก่อนเลย โอ๊ยเกิดความรู้สึกแสนเสียดายน่องไก่ในกล่องที่แม่และเพื่อนๆ ทิ้งไปเป็นอันมากบอกกับลุงเกกของลูกว่า แม่กับเพื่อนทิ้งไปกับกล่องกันแทบทั้งนั้น ลุงของลูกว่าพวกนี้มันโง่ไม่รู้จักของอร่อย นี่เป็นความไม่รู้อีกเรื่องที่เป็นสาเหตุทำให้จำเรื่องราวในวันนั้นได้อย่างแม่นยำมาก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น