วันพฤหัสบดีที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ส้วมหลุม - พยาธิตัวตืด

       เรื่องนี้อาจไม่น่าอ่านนัก แต่เป็นเรื่องและเหตุการณ์ในยุคสมัยที่การสาธารณสุข ในยุคนั้นยังเข้าไม่ถึง ไม่ดีสำหรับชาวบ้านที่อยู่นอกเมืองหรือไกลๆออกไป จะดีก็แต่ในเมืองเท่านั้นในช่วงแม่ยังเล็ก อายุที่จำได้ประมาณหกหรือเจ็ดขวบนั้น การขับถ่ายยังใช้ส้วมหลุม ที่ในหมู่บ้านมีไม่กี่ที่ เท่าที่จำได้มีสามหรือสี่ที่เท่านั้นอยู่ไกลบ้านออกไป มีการถ่ายอุจจาระในป่ากันบ้าง สำหรับเด็กเล็กมากๆ ก็จะถ่ายตามพื้นดิน และเจ้าสุนัขก็จะเข้ามากินไม่เหลือให้มีกลิ่นเหม็น (เป็นสมัยที่สุนัขยังกินอุจจาระและน้ำข้าว สมัยนี้ไม่มีอุจจาระเรี่ยราดให้สุนัขกิน จนสุนัขมันไม่รู้จักและกินไม่เป็นแล้วกระมัง)


       แม่จำได้แม้แต่ในโรงเรียน เมื่อแรกแม่เข้าเรียนใหม่ๆ ก็ยังเป็นส้วมหลุมอยู่ ต่อมาบริษัทปูนซีเมนต์ไทยได้จัดทำห้องสุขาให้ทางโรงเรียน จึงได้ใช้โถส้วมซึมที่บริษัทผลิตออกมาจำหน่าย ทำให้โรงเรียน
มีโถส้วมแบบนั่งยองใช้ กว่าจะพัฒนารูปแบบสุขภัณฑ์ห้องสุขาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน จริงๆเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่น่าเล่าหรอกเป็นเรื่องที่บ่งบอกถึงความด้อยพัฒนาของบ้านเราเมืองเราในสมัยกว่า 50 ปี ที่ผ่านมา แต่ก็กลับมาคิดว่ามันน่าจะเป็นสิ่งที่ลูกหลานน่าจะรู้ไว้บ้าง ว่าคนในสมัยนั้นเขาใช้ชีวิตประจำวัน การกินอยู่หลับนอน และขับถ่ายกันอย่างไรจึงเขียนเล่าไว้ด้วย

       ที่บ้านยายไม่มีส้วมหลุมในบ้าน แม่จำได้ถ้าปวดท้องถ่ายกัน ต้องไปเข้าส้วมหลุมที่ป่าหลังบ้านป้าเฟี้ยม ถ้าเป็นตอนกลางคืนก็จะออกมาถ่ายหรือฉี่กัน ที่นอกชานบ้านที่โล่งไม่มีหลังคา ตรงที่ตาทำร่องไว้ให้ ร่องนี้ใช้สำหรับฉี่ในเวลากลางคืนมานาน ถึงต่อมาจะมีส้วมซึมอยู่ที่พื้นดินข้างบ้านแล้วก็ตาม (ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ เวลากลางคืนไม่มีใครกล้าลงไปเข้าส้วมหลังบ้านได้) เช้ามาก็จะไม่มีอุจจาระให้เห็น เป็นอาหารเจ้าสุนัขไปแล้ว ถ้ามีกลิ่นฉี่เหม็น ตาก็จะขุดดินมากลบไม่ให้มีกลิ่นเหม็น เพราะเวลากลางวันก็จะใช้พื้นและแคร่ไม้ ใต้ถุนบ้านที่ไกลออกมามากทำงาน และพักผ่อนในชีวิตประจำวันอยู่แล้ว

       สิ่งที่จำได้มาจนถึงทุกวันนี้จากการใช้ส้วมหลุมคือ แม่มีเพื่อนรุ่นเดียวกันที่สนิท และบ้านอยู่ติดกันชื่อม็อก เป็นลูกลุงช่วยกับป้าเฟี้ยม คือบ้านใกล้แบบเปิดหน้าต่างพูดกันได้ มีอยู่วันชวนกันไปสอยมะขามเทศมันต้นใหญ่ที่ลานกลางหมู่บ้าน เกิดปวดท้องเลยเลิกสอยมะขามเทศ และเดินไปเป็นเพื่อน ให้เข้าส้วมหลุม แม่คอยดูต้นทาง (กลัวใครจะมาเข้าส้วมหรือแอบดู) ม็อกเข้าส้วมอยู่นานไม่เสร็จเสียที จนแม่ต้องร้องถามทำไมไม่เสร็จเสียที การเข้าส้วมนี่ไม่ใช่สิ่งที่น่ารื่นรมย์เลยนี่ ส้วมหลุมทุกที่ ถ้าไม่ใช้ไม้วางปิดให้ทั่วจนมิดละก็จะมองเห็นตัวหนอนยุบยับยั้วเยี้ยเต็มไปหมด และส่งกลิ่นไม่พึงปรารถนา ม็อกร้องบอกมาว่ามีอะไรออกมาจากก้น มันเอาออกไม่ได้ตกใจและกลัวมาก ให้แม่เข้าไปดูและช่วยด้วย

       แม่ก็เดินเข้าไปและก้มดู  เห็นเป็นตัวอะไรยาวๆ แกว่งอยู่ที่ก้นเพื่อน ก็นึกขึ้นได้ นี่น่าจะเป็นเจ้าตัวที่เคยเห็นจากรูปภาพในแผ่นโปสเตอร์ที่ครูสอน  คือพยาธิตัวตืด ตัวมันแบนยาวเป็นปล้องๆ ที่มองเห็นประมาณ 20 ซ.ม. แม่ก็ขยะแขยงแต่ก็ต้องช่วยเพื่อน ตอนนี้มันร้องไห้แล้ว ทำไงดีม็อกมีกระดาษเตรียมไว้เช็ดก้นแล้วเยอะพอสมควร (ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์เก่าหรือกระดาษสมุดที่ใช้แล้ว) แม่ใช้กระดาษที่เพื่อนเตรียมไว้เช็ดก้นหลับหูหลับตา จับเจ้าพยาธิตัวตืดนี้ดึงอย่างแรงจนหลุดออกมาจากก้นเพื่อนเสียงดังบรึบ สะดุ้งแล้วปล่อยมือโยนทิ้งลงไปในหลุมส้วม อย่างไม่มองรีบเดินออกมารอข้างนอก พอเพื่อน ออกมาก็ชวนกันไปล้างมือล้างไม้กัน นังม็อก เล่าว่ามันถ่ายมีตัวอะไรออกมา มันตกใจและกลัวมากมันลองดึงดูแล้ว ยิ่งดึงยิ่งออกมายาวมากจนมันดึงไม่ถึงและกลัวมากมันขอบใจแม่ และขอร้องแม่อย่าเล่าให้ใครรู้มันอาย ตั้งแต่บัดนั้นจนบัดนี้เพิ่งจะเล่าคราวนี้เอง ( 50 กว่าปีมาแล้ว)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น