ในช่วงปลาย ๆ ฤดูฝนจนถึงต้นฤดูหนาว ประมาณเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน ยังมีลมแรงและฝนตก จนถึงช่วงใกล้หมดฝนที่เราเรียกกันว่าฝนสั่งลา หรือฝนสั่งฟ้าจะมีเสียงฟ้าร้องคำรามเสียงแน่นๆ ในช่วงนี้เมื่อมีลมแรงๆ ติดบ้านยายมีต้นมะขามใหญ่อยู่สองต้น พอลมมาฝนมา บ้านใกล้เรือนเคียง ต่างก็คว้าถังสังกะสีเปล่า คนละถังสองถังรีบมาเก็บมะขามที่ถูกลมตีร่วงลงมามากมาย คือต่างรีบมาเก็บ ก่อนที่ฝนจะตก มะขามที่หล่นลงมาเปียกน้ำฝนก็จะใช้ไม่ได้ ฝักมะขามถูกลมแรงๆ หล่นจนมองไม่เห็นพื้นดินแม่ก็เอาถังลงไปเก็บมะขามไว้เหมือนกัน กว่าฝนจะตกต่างคนก็ได้มะขามกันคนละถังสองถัง เรียกว่าวันไหนลมมาฝนมา ก็วิ่งกันมาเก็บมะขามกัน จนกว่ามะขามจะล่วงจนหมดต้น เพื่อเก็บมะขามมาไว้กิน บ้านละมากๆ
เวลากลางวันที่ว่างจากงานอื่นๆแล้ว ก็จะเอามะขามที่เก็บไว้ มานั่งแกะเปลือกกันจนหมด แล้วจึง
ใช้มีดแงะเม็ดมะขามออก และปั้นมะขามที่แกะเปลือกและแงะเม็ดออกแล้วเป็นกำๆ เรียกว่ามี มะขามเปียกเก็บไว้ใช้ปรุงรสอาหาร สามารถเก็บใส่โหลหรือปี๊บไว้ใช้ได้ตลอดปี จนกว่ามะขามใหม่จะออก โดยไม่ต้องซื้อมะขามเปียกใช้ตลอดปี เม็ดมะขามที่แกะออกมีอยู่มาก บางทีก็เอามาแช่น้ำไว้ให้ร่อนแล้วเอามากินได้ หรือโยนเม็ดมะขามเข้าเตาไฟเผาให้สุก แล้วมาเคี้ยวกินเป็นของขบเคี้ยวสำหรับคนฟันดีๆก็ได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น