วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2553

แพผักบุ้ง

      เรือขุดลอกคลองนานนัก ผลก็คือคลองหน้าบ้านแม่กลายเป็นดินโคลนเต็มคลองยาวไปจรดคุ้งน้ำช่วงติดกับบริษัทปูนซีเมนต์ไทย  หลังจากนั้นวิถีชีวิตชาวบ้าน 2 ฝั่งคลอง ช่วงนั้นในการใช้น้ำสำหรับดำรงชีวิตก็เปลี่ยนไป  หน้าแล้งเราจะไม่มีน้ำคลองให้ใช้ ดินคลองแห้งแข็งหญ้าขึ้นรกสามารถเดินข้าม ไปฝั่งตรงข้ามคือวัดยางนมได้สบาย
  หลังจากนั้นทุกบ้านต้องจ้างเขาขุดบ่อไว้สำหรับใช้น้ำ และต่อท่อสูงสูบน้ำจากบ่อขึ้นใช้ตามบ้าน และน้ำจะขึ้น-ลง เป็นเวลา น้ำขึ้นมากหน่อยก็พออาบและใช้น้ำในคลองได้ ถ้าน้ำขึ้นไม่ถึงหรือขึ้นน้อยก็จะตักน้ำจากบ่ออาบและใช้ซักผ้ากัน 
แพผักบุ้ง
แพผักบุ้ริมแม่น้ำ
ในคลองหน้าบ้าน ยายจะปลูกผักบุ้งไว้ 1 แพ เป็นแพใหญ่ที่เดียวปลูกไว้นานแล้ว คือ ใครจะปลูกก็ได้ถ้าขยันไม่มีใครว่า  แพผักบุ้งนี้จะใหญ่มาก ยายจะใช้ไม่ไผ่ยาวๆ ปักไว้ที่แพ 4-5 ลำ  ปักจนถึงดิน  เพื่อไม่ให้แพผักบุ้งลอยตามน้ำไปในช่วงน้ำขึ้น  ยิ่งถ้าเป็นหน้าน้ำ น้ำเหนือมา ทุกบ้านที่มีแพผักบุ้งต้องหาลวดยาวๆ มามัดต่อกันให้ยาว ผูกแพผักบุ้งไว้กับต้นไม้ใหญ่ๆ ใกล้กับตลิ่ง กันผักบุ้งลอยไปกับน้ำ  เนื่องจากน้ำลึกมากไม้ที่ทำแพผักบุ้งไว้ ใช้ไม่ได้คือหยั่งไม่ถึงพื้นดิน 

ในบางครั้งแพผักบุ้งที่ผูกไว้ถ้ามีฝนลมมาแรงๆ แพอาจขาดได้  แพผักบุ้งก็จะลอยไปไกล  ซึ่งเป็นเรื่องยุ่งยากพอสมควรที่จะนำแพผักบุ้งกลับมาที่เดิมได้ โดยตากับยายจะต้องนั่งเรือไปด้วยกัน มีไม้ไผ่ยาวๆ ไปด้วย ยายจะเป็นคนพายเรือ ดันแพผักบุ้ง ตาก็จะใช้ไม่ไผ่ยาวๆถ่อดันให้กลับ  ช่วยกันดันด้วยเรือและไม้ไผ่ มาเรื่อยจนถึงบ้าน หรืออาจมีเพื่อนบ้านเอาเรือไปช่วยเอาแพผักบุ้งกลับมาด้วย 
แพผักบุ้งนี้เป็นที่หาเงินของยายอีกอย่างหนึ่ง  ยายจะพายเรือเก็บผักบุ้งยอดอวบๆ  ขาวๆ มาเต็มลำเรือ มาวางไว้ริมตลิ่ง แล้วก็ไปเก็บต่ออีก ยายจะเก็บครั้งละมากๆ เก็บอาทิตย์ละ 2 ครั้ง แบ่งเก็บเป็นแถบๆ คือพอเก็บด้านซ้ายจนหมด อาทิตย์หน้าเก็บด้านขวา  สลับกันไป เก็บด้านขวาหมด อาทิตย์ต่อไปด้านซ้ายที่ตัดหมดไปแล้วก็จะแตกอวบขาวให้ตัดได้อีก  สลับกับไปเช่นนี้
เมื่อนำผักบุ้งที่เก็บมาได้วางกองไว้บนฝั่ง ขนขึ้นมาวางที่นอกชานบนบ้าน เราแม่ลูก ก็จะช่วยกันเด็ดใบที่มากไปออกวางกองไว้ แล้วยายจะเป็นคนมัดผักบุ้งเป็นกำๆ ขนาดกำลังเหมาะ ผักบุ้งที่เก็บมานี้จะงาม  ยอดยาวขาวกรอบที่เดียว (ในยุคนั้นไม่มีการฉีดยากำจัดวัชพืช นานๆยายก็จะใช้รำข้าวหว่านลงในแพผักบุ้งสักที บางครั้งมีหนอนและตัวเต่าทองกินยอดผักบุ้งจนเก็บไม่ได้เลยก็มี  แต่ถ้ามีฝนตกลงมาสักพักแมลงเหล่านี้ก็หายไปเอง  เก็บผักบุ้งขายได้อีกและมลภาวะก็ไม่มี น้ำในคลองยังใช้อาบและใช้ในชีวิตประจำวันได้บ้าง ตามจังหวะการขึ้นลงของน้ำ
เล่าเรื่องผักบุ้งของยายไม่จบต่ออีกนิด  ยายจะมัดผักบุ้งเป็นกำๆ ด้วยตอกที่ตาจักเก็บไว้ให้ครั้งละมากๆนั่นเอง  ก่อนจะใช้ตอกต้องนำมาแช่น้ำให้ตอกอ่อนตัวก่อน จึงจะนำมามัดได้โดยที่ตอกไม่หัก  เมื่อกำผักบุ้งหมดแล้ว ยายก็จะใช้มีดยาวๆหั่นตรงโคนกำผักบุ้งให้เสมอกัน  แล้วนำมาเรียงมัดเป็นฟ่อนใหญ่  ฟ่อนละ 25 กำ  โดยใช้ใบตองห่อมัดด้วยเชือกกล้วย  เพื่อเตรียมไว้ไปส่งแม่ค้าเจ้าประจำที่ตลาดในตอนเช้ามืด ถ้าแม่จำไม่ผิด ชื่อ ”ยายฮอง” ในราคาฟ่อนละ 5 บาท รับไปวางขายราคากำละ 25 สตางค์ ในแต่ละครั้งที่ยายหาบผักบุ้งไปส่งแม่ค้าผักที่ตลาด จะได้เงินครั้งละ 25 - 30 บาท



ผักบุ้งยอดงามๆ
กำผักบุ้ง
ยอดผักบุ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น